ชำแหละจริยธรรม'Generation Y'มุ่งหาเงิน/หน้าตาเป็นหลัก แนะ'เคารพคนที่เล็กๆแต่ทำสิ่งใหญ่ๆ'
ที่มา : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1290522872&grpid=00&catid=&subcatid=
ผู้สื่อข่าว มติชนออนไลน์ รายงานว่า การสัมมนากึ่งวิชาการ เรื่อง “จริยธรรมไทยในสังคมยุค Generation Y”� ในงานสัปดาห์ส่งเสริมจริยธรรมแห่งชาติ ประจำปี 2553� ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมคอนราด วันที่ 23 พ.ย.� ได้มีการนำเสนอแนวคิดทางด้านจริยธรรมส่งต่อให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมทั้งมุมมองของกลุ่มคนหลากหลายอาชีพที่มีอิทธิพลต่อ�� ยุค Generation Y� (Generation Young)
���� นายธนกร ฮุนตระกูล นักธุรกิจ เจ้าของโรงแรมบ้านท้องทราย เกาะสมุย กล่าวว่า คนในปัจจุบันจะเน้นเรื่องเงินและหน้าตาเป็นหลัก เราควรแยกวิถีชีวิตออกมาจากการหาเงิน ลดความสำคัญเรื่องเงินลงบ้าง เช่น ถ้าตั้งเป้าไว้ 100 ลดเหลือ 60 ก็ได้ จะเป็นการลดกำไรลดความต้องการ โดยเฉพาะถ้าต้องทำให้เต็มร้อยแล้วแลกมากับการทุจริตหรือทำผิด จริยธรรม
���� 'คำพูดที่ว่าคอร์รัปชั่นได้ถ้าบ้านเมืองอยู่ดีกินดี ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด สังคมไม่ควรมีความคิดเช่นนี้ มีอาชีพอีกมากมายที่ไม่ได้ทำเงิน แต่ก็สามารถให้ความสุขแก่เราได้ รัฐเองมีส่วนสำคัญที่ทำให้สังคมปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตลงได้'“คนที่ทำธุรกิจ อาจจะเริ่มต้นโดยการไปกู้หนี้ ยืมสินเขามาทำ ผมเองไม่มีหนี้สินมาก่อน ธุรกิจทุกวันนี้มีขึ้นมาได้ก็เพราะครอบครัว ไม่ได้สร้างด้วยตัวเองเพียงแต่มาสานต่อ ธุรกิจยิ่งใหญ่ไม่ได้แปลว่ายิ่งดี บางที่ยิ่งใหญ่อาจทำให้เราทุกข์มากยิ่งขึ้น ให้คิดถึง คำว่า พอดี ความพอดีของเราอยู่ตรงไหน ความพอดีของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน”
���� ขณะที่ นายทรงกลด บางยี่ขัน บรรณาธิการนิตยสาร A Day กล่าวว่า ทุกคนบนโลกใบนี้ ไม่ว่าใครก็ตามต้องการให้คนยอมรับเสมอ มี 4 อย่าง คือ เก่ง สวย รวย และดี สังคมปัจจุบันไม่เอนไปทางด้านหน้าตาดี ก็จะดูที่ความร่ำรวย การแต่งกายก่อนเป็นหลัก โบราณว่า “ความดังไม่คงที่ แต่ความดีสิคงทน”��� หลายอาชีพเพิ่มความสำคัญ เพื่อเสริมสร้างให้แต่ละอาชีพมี ฮีโร่� ให้เยาวชน ได้ปฏิบัติตามเพื่อพัฒนาการของประเทศ ปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของสังคมไทย คือ คนเราพูดมากกว่าที่จะทำ��� สื่อถือว่ามีบทบาทมากในปัจจุบัน ดังนั้น สื่อควรนำเสนอความคิดของคนรุ่นใหม่ที่ทำงานเพื่อสังคม เชิดชูคนดีๆ
���� 'ผมเชื่อว่าผู้บริโภคจะเปลี่ยนพฤติกรรมรับสื่อได้ดี ต้องมีสื่อที่กล้าลุกขึ้นมาเริ่มต้นกระตุ้นสังคม ทั้งนี้ โครงสร้างของสังคมโดยรวมเปลี่ยนไปสู่สังคมเน้นวัตถุนิยม เป็นยุคที่เด็กอ่อนแอมาก เพราะ ไม่มีสิ่งยึดเหนี่ยว ไม่มีราก ไม่มีแก่น แต่ต้องการแค่ความยอมรับจากเพื่อน เด็กที่แตกต่าง มักจะถูกเพื่อนล้อที่ไม่เข้ากลุ่มเพราะว่าไม่มีของเหมือนเพื่อน ผมเคยเจอข้อมูลในเฟสบุ๊คบอกว่าไม่ไปโรงเรียนเพราะพ่อไม่ซื้อไอโฟน 4 ให้ และได้ขว้างโทรศัพท์เก่าทิ้งไป ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่แย่มากสำหรับเด็กไทยตามสมัยนิยม'
���� “เคารพคนที่เล็กๆแต่ทำสิ่งใหญ่ๆ แต่ไม่ชื่นชมคนที่ใหญ่โตแต่ทำแค่สิ่งเล็กๆ ทุกคนมักจะเคร่งเครียดกับผู้อื่น แต่มักจะผ่อนปรนกับตัวเองเสมอ เราต้องเริ่มจากตัวเราเองก่อน ทำมากกว่าพูด ทำให้เท่ากับที่เราทำได้จริงๆ”
���� ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล ซีอีโอ บริษัท ฟุ๊คดุ๊ก โปรดักชั่น กล่าวถึง การสร้างระบบสังคมและระบบครอบครัวที่ดี เด็กจะเติบโตขึ้นมาในสังคมและรับวัฒนธรรมใดนั้น พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างและเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีแก่ลูก ต้องสอนให้เด็กคิดก่อนทำทุกอย่าง เพื่อให้เด็กรู้ว่าสิ่งไหนเป็นตัวอย่างที่ดีหรือไม่ดี เด็กจะเจริญเติบโตได้ หากจะให้สื่อมารับผิดชอบสร้างสังคมที่ดี ต้องสร้างกระแสให้เกิดขึ้นให้ได้
���� “ทำอย่างไรให้คนเรามีอิสระ โดยการทำอย่างไรก็ได้ ไม่ให้ไปเบียดเบียนผู้อื่น อยากให้มองลูกเป็นธุรกิจ� มี จริยธรรม การประพฤติตนที่ดี , ผลกำไร คือ ความสุขที่ได้เห็น เขามีความสุข ,มองในแง่ความมั่นคงและความยั่งยืน ,ความพอดีและความพอเพียงตามรอยพระยุคลบาท เปรียบได้กับความพอดีในธุรกิจ , ความต่อเนื่อง ธุรกิจก็คือทำไปเรื่อยๆอย่ารีบร้อนก็จะทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไป”
���� ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี กล่าวทิ้งท้าย อยากให้สังคมไทยเป็นอย่างเช่นทุกวันและยังคงอยู่ตลอดไป คนเราจะเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเราเอง จึงอยากให้คน Generation Y ทำความผิดกันและเรียนรู้ทุกสิ่งจากความผิดพลาดแล้วก้าวข้ามสิ่งเหล่านั้นปรับตัวกระตือรือร้นให้ชีวิตดีขึ้น
���� ผู้ร่วมสัมมนาทั้ง�� 3 ต่างมีมุมมองเหมือนกันว่าคนส่วนมากคิดถึงเรื่องเงินเป็นเรื่องใหญ่ จนลืมเลือนการอยู่ร่วมกันแบบน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า จึงทำให้สังคมแตกแยกโดยการแบ่งพรรค แบ่งพวก ชิงดีชิงเด่นกันมากขึ้น.
�